|
Street Photography ภาพแนวนี้ถ่ายได้ตลอดเวลา ฝึกสมองได้ทุกนาที ขอเพียงมีทัศนะคติที่ดี
สวัสดีเพื่อนพี่น้องทุกคนครับ
เนื่องจากผมได้มีโอกาสเข้าร่วม “Street Photography Workshop by David Gibson & Richard Bram” จัดโดย TCDC ช่วงวันที่ 1-3 ก.พ. 2556 จึงอยากนำความรู้ที่ได้มาส่งต่อให้กับผู้สนใจถ่ายภาพในแนวนี้
Street Photography ในแบบฉบับของ David และ Richard คือการที่เอาตนเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงแล้วกดชัตเตอร์มาให้ทันโดยปราศจากการ set สถานการณ์และการขอให้แบบมาอยู่ในภาพของเรา ทั้งสองท่านกล่าวว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่จะได้ภาพที่น่าจดจำมาคือ LUCK หรือโชค โดยใช้ร่วมกับพื้นฐานหรือหลักการณ์ในการเก็บภาพแนว street photography หลักๆ 2 อย่างคือ
1) The stake out คือการให้เราเลือก background ที่ชอบเป็นจุดเริ่มต้น จากน้ันให้รอสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นใน background ที่เราตีกรอบไว้ แล้วกดชัตเตอร์ให้ทัน เช่นภาพตัวอย่างที่ผมถ่ายคือเริ่มจาก background รูปมือถือ mini ipad จากนั้นรอคนที่กำลังคุยโทรศัทพ์เดินผ่านมาในเฟรม หากจะคิดให้ละเอียดขึ้นคือคนที่ผ่านเข้ามาต้องเป็นวัยรุ่น หน้าตาอย่างไร ถือมือถือข้างไหน เป็นต้น
2) Mugging คือการบุกจู่โจมเข้าหาเป้าหมาย (อาจจะใช้คำแรงไปหน่อยแต่อยากให้เห็นถึงภาพจริงครับ)แล้วกดชัตเตอร์ ...ช่อตแบบนี้จะพบเห็นกับกิริยาสีหน้าของผู้คนตามท้องถนน จริงๆแล้วมันก็คือสีหน้าปกติที่พบเห็นเพียงแต่ไม่ได้ถูกบันทึกเป็นภาพถ่ายในช่วงเวลานั้นๆ
สิ่งที่ทั้งสองท่านอยากเห็นจากภาพแนวนี้คือภาพที่แปลกตาที่ทำให้คนดูภาพมีข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในภาพ คิดตามภาพและให้ภาพนั้นเป็นที่จดจำ แต่ละท่านจะมีแนวทางและสไตล์ที่แตกต่างกัน ให้ลองออกไปถ่ายภาพดูแล้วจะรู้ว่าตัวเองมีสไตล์อย่างไร เช่น David จะไม่ชอบถ่ายภาพความวุ่นวายบนท้องถนนแต่จะเน้นเป็นแนวเรียบง่าย หาร่มเงา และมองหาBackgroundที่เค้าสนใจ ในขณะที่ Richard จะชอบให้ภาพมีอะไรหลายอย่างที่บ่งบอกถึงเรื่องเล่าว่าคนนี้ทำอะไรอยู่ บุคคลในภาพมีการสะท้อนเรื่องราวกันอย่างไร (Echo)
ผมขอสรุปประเด็นสำคัญในการถ่ายภาพ Street Photography ในแนว David และ Richard ดังนี้
-
หมั่นฝึกฝนกระตุ้นให้ตัวเองตื่นตัวในการสังเกตุสิ่งรอบข้างเสมอๆ
-
มองสิ่งที่แปลกที่อาจเกิดขึ้นในเฟรมภาพ(เรียกว่าเป็นการคาดคะเนเหตุการในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นในเฟรมภาพ)
-
มองหาร่มเงาแสงเงาที่แปลกตาเป็นเฟรม
-
หาวัสดุต่างๆรอบกายที่อาจเสริมเรื่องราวและเป็นสิ่งสะท้อน (ECHO) ในภาพ (ภาพตัวอย่างของผมถือว่าเข้าข่าย Echo กล่าวคือ Background และเรื่องจริงมีความสอดคล้องกัน)
-
หา Gesture คืออาการกิริยาของผู้คน สีหน้า ท่าทางของร่างกาย
-
ลองหาโปรเจค หาTheme รวบรวมเป็น album (ซึ่งจะใช้เวลานานพอสมควร) ลองดูตัวอย่างผลงานจาก Jesse Marlow’s http://www.jessemarlow.com/portfolio/
-
ไม่ควรออกไปเป็นหมู่คณะ หรือถ้าหากต้องออกไปด้วยกันแล้วเมื่อเห็นท่านใดถ่ายรูปมุมนั้นอยู่ ให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปเก็บรูปร่วมกับเพื่อนที่กำลังถ่ายมุมนั้นอยู่
-
หากคิดจะถ่ายภาพสี ก็ให้เรามุ่งเน้นแต่ภาพสีในวันนั้น ไม่ควรเปลี่ยนหรือสลับเป็นขาวดำบ้าง สีบ้าง เพราะจะขาด Consistency /ความไม่เสถียร/ความไม่สอดคล้อง ในการได้ภาพตามโจทย์ที่ควรจะเป็น
-
เพื่อความน่าสนใจของภาพ พยายามเข้าใกล้ตัวแบบแทนที่จะอยู่ห่างแล้วใช้เทเลเจาะมา
-
อย่าเสียเวลากับการคิดหาคำพูดสวยๆมาอธิบายภาพของเราเพราะมันไม่ได้ทำให้ภาพที่ดูธรรมดากลายเป็นภาพที่ดูดีขึ้นมาได้
-
การเลือกภาพเสนอเป็นสิ่งสำคัญมาก เราควรหากลุ่มที่ชอบภาพแนวเดียวกันเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะในการเสนอมุมมองตัวเองดีกว่าการคลำทางหาเอง
-
ไม่มีการแต่งสีภาพเกินจริงใดๆทั้งสิ้น เป็นไปได้มากที่สุดคือการ dodge burn ในตำแหน่งที่เราอยากเน้น
-
หมั่นหาหนังสือเกี่ยวกับศิลปะมาดูซึ่งจะทำให้เพิ่มมุมมอง+แนวคิดในการได้ภาพมากขึ้น
อาจมีคำถามว่าเคยถูกต่อว่าหรือห้ามถ่ายมั้ย Richardกล่าวว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเราเพียงแต่ขอโทษอย่างสุภาพพร้อมส่งรอยยิ้มให้เค้า หากเค้าไม่ให้ถ่ายเราก็ไม่ต้องถ่าย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างสำหรับภาพแนวนี้คือ เราต้องมั่นใจว่าเรากลมกลืนอยู่กับสภาพแวดล้อม ณ จุดๆนั้น เราต้องไม่กังวลมากเกินไปว่าจะมีคนสนใจเราเพราะถ้าหากเรากังวลเราจะไม่มีทางได้ภาพดีและที่สำคัญจะไม่สนุกกับการถ่ายภาพ ให้เราบอกตัวเราเองว่า I Am Invisible :)
ท้ายสุดนี้ ผมขอขอบคุณ TCDC และทีมงานทุกท่านที่จัดกิจกรรมดีๆให้กับสังคมไทยและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นกิจกรรมดีๆแบบนี้จากหน่วยงานอื่นๆ ขอขอบคุณ David Gibson และ Richard Bram ที่นำความรู้มาแบ่งปันให้กับพวกเรา ขอบคุณเพื่อนร่วม workshop ทุกท่านครับ
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่
1) David Gibson:
2) Richard Bram:
หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยจากสิ่งที่ผมเรียบเรียงมานี้และหากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้
สวัสดีครับ
|
